ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1958/2518
ป.อ. มาตรา 33, 78, 90, 91, 278, 279, 284
จำเลยใช้อุบายหลอกลวงหญิงผู้เสียหายว่าจะให้สีผึ้ง 1 ตลับ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามไปเอาจากจำเลยที่สวนหลังบ้านแล้วจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานหลอกลวงหญิงไปเพื่อการอนาจารกระทงหนึ่ง และฐานกระทำอนาจารอีกกระทงหนึ่ง
สีผึ้งของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดต้องริบ
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่ต้องมีการสืบพยานหลักฐานอย่างใดถือว่าเป็นเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้จำเลย
___________________________
โจทก์ฟ้อง จำเลยให้การรับสารภาพ คดีฟังได้ว่าจำเลยได้ใช้อุบายหลอกลวงเด็กหญิงอายุ 12 ปีไปเพื่อการอนาจาร โดยว่าจะให้สีผึ้ง 1 ตลับ ผู้เสียหายหลงเชื่อตามไปเอาจากจำเลยในสวนหลังบ้านแล้วจำเลยได้ทำอนาจารผู้เสียหาย มีผู้พบเห็นการกระทำของจำเลยจึงได้ควบคุมตัวจำเลยไว้ และยึดได้สีผึ้งเป็นของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278 (ที่ถูกเป็นมาตรา 279) มาตรา 284 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 9 ข้อ 10 ลงโทษจำเลยตามมาตรา 278 วรรค 2 (ที่ถูกเป็นมาตรา 279 วรรค 2) ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี คำขอให้ริบของกลางให้ยกเสียเนื่องจากไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองกรรมเป็นกระทงความผิดขอให้ริบของกลาง และไม่ควรลดโทษแก่จำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองกรรมเป็นกระทงความผิดขอให้ริบของกลางและไม่ควรลดโทษแก่จำเลย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานหลอกลวงหญิงไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 ฐานหนึ่ง และกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279อีกฐานหนึ่ง ความผิดสองฐานดังกล่าวต่างกันและแยกจากกันได้ มิใช่เป็นความผิดต่อเนื่องเป็นกระทงเดียวกัน ดังนั้น การกระทำของจำเลยเป็นความผิดอาญาสองกรรม
สีผึ้ง 1 ตลับของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดอันจะต้องริบ
สำหรับปัญหาที่ว่าควรลดโทษแก่จำเลยหรือไม่นั้น เห็นว่าเมื่อจำเลยทราบคำฟ้องของโจทก์แล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องทันทีโดยไม่ต้องมีการสืบพยานหลักฐานอย่างใด คำให้การรับสารภาพของจำเลยต่อศาลเป็นเหตุบรรเทาโทษ ควรลดโทษให้แก่จำเลย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11ข้อ 9 กระทงหนึ่งและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 9 กระทงหนึ่งและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 284 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 10 อีกกระทงหนึ่ง ลงโทษเรียงกระทงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 2จำคุกกระทงความผิดละ 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78จำคุก 1 ปี ของกลางริบ
(สมชัย ทรัพยวณิช-สนับ คัมภีรยส-รื่น วิไลชนม์)
แหล่งที่มา
กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น
หมายเหตุ
หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
Line id : lawyer_2 ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com