อายุความคดีมรดก | เจ้าหนี้ฟ้องคดีมรดกเกินหนึ่งปี

เจ้าหนี้ฟ้องเรียกเอากับทรัพย์มรดกซึ่งรับจำนองไว้จากเจ้ามรดก แม้ว่าสิทธิเรียกร้องในหนี้ส่วนที่เป็นหนี้ประธานขาดอายุความแล้ว แต่เจ้ามรดกนำที่ดินมาจดทะเบียนจำนองไว้กับเจ้าหนี้ และเจ้าหนี้เรียกร้องเอากับทรัพย์มรดกอันเป็นทรัพย์ที่รับจำนองไว้ซึ่งเกิน 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย ก็ไม่ต้องห้ามตามกฎหมายที่จะบังคับเอาได้เพราะถือว่าเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ
มาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี ...มาตรา 193/27 ผู้รับจำนอง...ยังคงมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง แม้ว่าสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตามแต่จะใช้สิทธินั้นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3481/2546

แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม จะห้ามมิให้เจ้าหนี้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดกแต่บทบัญญัติดังกล่าวก็บัญญัติยกเว้นไว้มิให้ใช้บังคับแก่กรณีสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ตามมาตรา 193/27 และมาตรา 745 ดังนั้น แม้ผู้ร้องจะฟ้องบังคับชำระหนี้เกินกว่า1 ปี นับแต่ผู้ร้องรู้หรือควรได้รู้ถึงการตายของเจ้าของมรดก ผู้ร้องก็ยังคงมีสิทธิบังคับจำนองได้

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน230,000 บาท แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 77 ตำบลวัดขนุนอำเภอสิงหนคร (อำเภอเมืองสงขลา)จังหวัดสงขลา พร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งจำเลยที่ 1 มีสิทธิครอบครองร่วมกับนางสาวแผ้ว รัชชโต และนางรัตติยา หนูสุคนธ์ โดยรับมรดกมาจากนายคล้อย รัชชโต เพื่อขายทอดตลาด

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ๆและหากศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการยึดหรือโจทก์สละสิทธิในการบังคับคดีให้ผู้ร้องสวมสิทธิในการบังคับคดีต่อไป

โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ใช้สิทธิฟ้องคดีให้ทายาทของนายคล้อยชำระหนี้ภายในกำหนดอายุความนับแต่ทราบการตายของนายคล้อย คดีผู้ร้องจึงขาดอายุความขอให้ยกคำร้องขอ

จำเลยที่ 1 ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องขอ

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้รายอื่น หากโจทก์ถอนการยึดหรือสละสิทธิการยึดทรัพย์ ให้ผู้ร้องสวมสิทธิการบังคับคดีได้ตามกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2532 นายคล้อยรัชชโต ได้กู้ยืมเงินผู้ร้องจำนวน 130,000 บาท และจดทะเบียนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 77 หมู่ที่ 3 ตำบลวัดขนุน อำเภอสิงหนคร(อำเภอเมืองสงขลา) จังหวัดสงขลา พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นประกันการชำระหนี้ ต่อมานายคล้อยได้ถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 นางสาวแผ้ว รัชชโต และนางรัตติยา หนูสุคนธ์ได้รับโอนสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวในฐานะทายาทผู้ร้องทราบว่านายคล้อยถึงแก่ความตายตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2540 และยื่นคำร้องขอคดีนี้ต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 15มีนาคม 2544 คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า สิทธิเรียกร้องของผู้ร้องขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้วินิจฉัยและแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยไว้โดยชัดแจ้งแล้วว่าแม้ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 วรรคสาม จะห้ามมิให้เจ้าหนี้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดกก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวก็บัญญัติยกเว้นไว้มิให้ใช้บังคับแก่กรณีสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ตามมาตรา 193/27 ซึ่งบัญญัติว่าผู้รับจำนอง ผู้รับจำนำ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง หรือผู้ทรงบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้อันตนได้ยึดถือไว้ ยังคงมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง จำนำ หรือที่ได้ยึดถือไว้แม้ว่าสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่จะใช้สิทธินั้นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้ และตามมาตรา 745 ก็บัญญัติไว้ว่า ผู้รับจำนองจะบังคับจำนองแม้เมื่อหนี้ที่ประกันนั้นขาดอายุความแล้วก็ได้แต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้ ดังนั้น แม้จะฟังว่า ผู้ร้องฟ้องบังคับชำระหนี้เกินกว่า 1 ปี นับแต่ผู้ร้องรู้หรือควรได้รู้ถึงการตายของเจ้ามรดกผู้ร้องก็ยังคงมีสิทธิบังคับจำนองได้ ฎีกาของโจทก์ไม่อาจหักล้างเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้ และไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป ศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของรองประธานศาลฎีกาซึ่งประธานศาลฎีกามอบหมาย เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นสาระแก่คดีไม่ควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยซ้ำอีก"
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ ให้คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดในชั้นฎีกาแก่โจทก์
( เกรียงชัย จึงจตุรพิธ - วิชัย วิวิตเสวี - สำรวจ อุดมทวี )

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย หรือนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
คดีฟ้องเรียกตามข้อกำหนดพินัยกรรม มิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อผู้รับพินัยกรรมได้รู้หรือควรได้รู้ถึงสิทธิซึ่งตนมีอยู่ตามพินัยกรรม
ภายใต้บังคับแห่ง มาตรา 193/27 แห่งประมวลกฎหมายนี้ ถ้าสิทธิเรียก ร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกมีกำหนดอายุความยาวกว่าหนึ่งปี มิให้เจ้าหนี้ นั้นฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก
ถึงอย่างไรก็ดี สิทธิเรียกร้องตามที่ว่ามาในวรรคก่อน ๆ นั้น มิให้ฟ้องร้องเมื่อพ้นกำหนดสิบปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย
มาตรา 193/27 ผู้รับจำนองผู้รับจำนำ ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงหรือผู้ทรงบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้อันตนได้ยึดถือไว้ยังคงมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนอง จำนำหรือที่ได้ยึดถือไว้ แม้ว่าสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความแล้วก็ตามแต่จะใช้สิทธินั้นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยที่ค้างย้อนหลังเกินห้าปีขึ้นไปไม่ได้

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US