สอบถามการแย่งที่ กลับถูกชกต่อยจึงชกต่อยทำร้ายไปบ้าง ไม่ใช่สมัครใจเข้าวิวาทเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1212/2517

ป.อ. มาตรา 68, 288

จำเลยเป็นหัวหน้ายาม เป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ตายผู้ตายไม่ได้อยู่ยามตามหน้าที่ จำเลยสอบถามดูแต่โดยดี ผู้ตายกลับพูดทำนองไม่ยำเกรงจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้า และตรงเข้าต่อยเตะจำเลยทันที การที่จำเลยชกต่อยตอบโต้ไปบ้างย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่จะป้องกันได้ หาจำต้องให้ผู้ตายทำร้ายแต่ฝ่ายเดียวไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน และเมื่อผู้ตายเตะต่อยจำเลยล้มลงไปแล้วยังยืนรอจะทำร้ายจำเลยอีก พอจำเลยลุกขึ้นผู้ตายได้แทงจำเลยอีก 2 ครั้ง ครั้งที่สองถูกหน้าท้องถึงไส้ไหลจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด ในระยะห่าง 1 วา ขณะที่ผู้ตายขยับจะแทงเอาอีก หากจำเลยไม่ยิงผู้ตายก็อาจเข้าทำร้ายจำเลยถึงตายได้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

___________________________

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 91 และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72แก้ไข (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3

จำเลยให้การรับสารภาพฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายส่วนข้อหาฆ่าผู้ตาย ต่อสู้ว่ากระทำโดยป้องกัน

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกับผู้ตายได้เกิดการวิวาทชกต่อยกันแล้วใช้อาวุธทำร้ายซึ่งกันและกัน จำเลยจะอ้างว่ากระทำโดยป้องกันไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 91จำคุก 20 ปี และผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72แก้ไข (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน จำเลยรับข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 15 ปี 4 เดือน 15 วัน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุหาใช่เรื่องวิวาทกันไม่ จำเลยไม่มีความผิด พิพากษาแก้ให้ยกข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เสีย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า ผู้ตายเป็นยาม จำเลยเป็นหัวหน้ายาม คืนเกิดเหตุเวลา 21.00 น.เศษ จำเลยไปตรวจยาม ปรากฏว่าผู้ตายไม่ได้อยู่ยามต่อมาประมาณ 10 นาที พบผู้ตายเดินกลับจากตลาดมีอาการเมาสุราจำเลยถามผู้ตายว่า “ประจวบ ลื้อไปไหนมา ไม่อยู่ยาม” ผู้ตายตอบว่า”อั๊วจะอยู่ก็ได้ ไม่อยู่ก็ได้” พูดแล้วผู้ตายก็ตรงเข้าเตะต่อยจำเลย แล้วต่างฝ่ายต่างชกต่อยกันจำเลยล้มลง ผู้ตายยืนรออยู่ พอจำเลยลุกขึ้น ผู้ตายก็เอาเหล็กขูดชาฟท์แทงจำเลย 2 ครั้ง ครั้งที่สองถูกที่หน้าท้อง ไส้ไหล แล้วจำเลยดึงปืนออกจากเอวยิงผู้ตาย 1 นัดวินิจฉัยว่าการที่จำเลยสอบถามผู้ตายถึงเรื่องผู้ตายไม่อยู่ยามตามปกติแต่โดยดี ผู้ตายกลับพูดทำนองไม่ยำเกรงจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าและตรงเข้าต่อยเตะจำเลยทันที ที่จำเลยชกต่อยตอบโต้ไปบ้างย่อมเป็นสิทธิของจำเลยที่จะป้องกันได้ หาจำต้องให้ผู้ตายทำร้ายแต่ฝ่ายเดียวไม่ ไม่ใช่เป็นเรื่องสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน และเมื่อผู้ตายเตะต่อยจำเลยล้มลงไปแล้วยังยืนรอจะทำร้ายจำเลยอีก พอจำเลยลุกขึ้น ผู้ตายได้แทงจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งที่สองถูกหน้าท้องถึงไส้ไหล จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงไป 1 นัด ในระยะห่าง 1 วา ขณะผู้ตายขยับจะแทงเอาอีก ถ้าหากจำเลยไม่ยิงผู้ตายก็อาจเข้าทำร้ายจำเลยถึงตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

พิพากษายืน

(สนิท บริรักษ์-สุธรรม วรรณแสง-สงวน สิทธิไชย)

แหล่งที่มา

กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

แผนก

หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น

หมายเหตุ

หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย  Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)

Line id : lawyer_2  ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)

ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US