ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

เรื่อง การประทับฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง | ในคดีอาญาที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองนั้น กฎหมายกำหนดให้ศาลไต่สวนมูลฟ้องก่อนศาลประทับฟัองโจทก์ และในการไต่สวนมูลฟ้องนั้นข้อเท็จจริงที่ไต่สวนและได้ความมานั้นจะเป็นจริงหรือไม่เป็นเรื่องการพิสูจน์ในชั้นพิจารณาคดีซึ่งศาลจะต้องรับฟังพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ่ายให้สิ้นสงสัยว่าเป็นความจริง แต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องนั้น เมื่อพยานโจทก์ยืนยันการกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดที่จะฟังได้ว่าคดีโจทก์มีมูลก็ชอบที่จะประทับฟ้องโจทก์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ -3965/2553

การรับฟังพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องกับชั้นพิจารณาแตกต่างกัน ชั้นไต่สวนมูลฟ้องเมื่อได้ข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบความผิดที่ฟ้องโดยไม่มีข้อพิรุธอันเป็นที่ประจักษ์ชัดก็ฟังได้แล้วว่า คดีมีมูลตามฟ้อง ส่วนข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจะเป็นความจริงหรือไม่เป็นข้อที่จะต้องพิสูจน์กันอีกชั้นหนึ่งในชั้นพิจารณา ซึ่งในชั้นพิจารณาต้องฟังพยานหลักฐานจนได้ความอันสิ้นสงสัยว่าข้อเท็จจริงที่ได้มานั้นเป็นความจริง จึงจะฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดตามฟ้อง

ความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารสิทธิปลอม เบิกความเท็จและแสดงเอกสารอันเป็นเท็จตามฟ้องเกิดขึ้นทันทีที่จำเลยได้กระทำการเหล่านั้น หาจำต้องรอให้คดีก่อนที่จำเลยนำหนังสือสัญญากู้เงินที่โจทก์ลงลายมือชื่อผู้กู้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งให้รับผิดตามสัญญากู้ดังกล่าวมีคำพิพากษาถึงที่สุดเพื่อได้ข้อเท็จจริงที่ยุติในคดีแพ่งนั้นมาเป็นเหตุที่จะวินิจฉัยในคดีนี้ว่ามีมูลหรือไม่

เมื่อโจทก์เบิกความในชั้นไต่สวนมูลฟ้องยืนยันว่า โจทก์มิได้กู้เงินจำเลยและจำเลยกรอกข้อความในสัญญากู้ที่โจทก์ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์แล้วจำเลยนำสัญญากู้ไปฟ้องโจทก์ให้ชำระเงินตามสัญญาและจำเลยเบิกความเท็จและอ้างสัญญากู้ปลอมในการพิจารณาคดีนั้นซึ่งเป็นข้อสำคัญในคดี ข้อเท็จจริงที่ได้จึงครบองค์ประกอบความผิดโดยไม่มีข้อพิรุธอันเป็นที่ประจักษ์ชัด คดีโจทก์จึงมีมูล
________________________________

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 177, 180, 264, 265, 268

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีของโจทก์มีมูลหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่าที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องคดีนี้ด้วยเหตุที่ว่าคดีแพ่งยังไม่ถึงที่สุดข้อเท็จจริงยังไม่ยุตินั้น เท่ากับวินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดีว่าจำเลยมิได้กระทำความผิดทั้งที่เป็นเรื่องในชั้นพิจารณาจึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อพยานโจทก์ยืนยันการกระทำของจำเลยครบองค์ประกอบความผิดที่จะฟังได้ว่าคดีโจทก์มีมูลก็ชอบที่จะประทับฟ้องโจทก์นั้น เห็นว่าการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องกับชั้นพิจารณาแตกต่างกัน ชั้นไต่สวนมูลฟ้องเพียงแค่มีมูลความผิดตามฟ้องหรือไม่ เมื่อได้ข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบฐานความผิดที่ฟ้องโดยไม่มีข้อพิรุธอันเป็นที่ประจักษ์ชัดก็ฟังได้แล้วว่าคดีมีมูลตามฟ้อง ส่วนข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจะเป็นความจริงหรือไม่ เป็นข้อที่จะต้องพิสูจน์กันอีกชั้นหนึ่งในชั้นพิจารณา ซึ่งในชั้นพิจารณาต้องฟังพยานหลักฐานจนได้ความอันสิ้นสงสัยว่าข้อเท็จจริงที่ได้มานั้นเป็นความจริง จึงจะฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดตามฟ้อง

ความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ ใช้เอกสารสิทธิปลอม เบิกความเท็จและแสดงเอกสารอันเป็นเท็จตามฟ้องเกิดขึ้นทันทีที่จำเลยได้กระทำการเหล่านั้น หาจำต้องรอให้คดีก่อนที่จำเลยได้นำหนังสือสัญญากู้เงินที่โจทก์ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้จำนวน 4 ฉบับ ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีแพ่งให้รับผิดชำระเงินตามสัญญากู้เงินดังกล่าวมีคำพิพากษาในคดีนั้นอันถึงที่สุดเพื่อได้ข้อเท็จจริงที่ยุติในคดีแพ่งนั้นแล้วมาเป็นเหตุที่จะวินิจฉัยในคดีนี้ว่ามีมูลหรือไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงในคดีแพ่งโจทก์และจำเลยยังโต้เถียงกันอยู่จึงไม่ยุติว่าสัญญากู้เงินตามฟ้องเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ คดีจึงไม่พอฟังว่ามีมูลตามฟ้องนั้นย่อมไม่ถูกต้อง

เมื่อพิจารณาจากคำเบิกความของโจทก์และเอกสารที่อ้างส่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว โจทก์ได้ยืนยันว่าโจทก์มิได้กู้เงินจากจำเลยและจำเลยกรอกข้อความลงในหนังสือสัญญากู้เงินทั้ง 4 ฉบับ ที่โจทก์ลงลายมือชื่อในช่องผู้กู้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์แล้วนำหนังสือสัญญากู้เงินนั้นไปยื่นฟ้องโจทก์ต่อศาลชั้นต้นให้รับผิดชำระเงินตามสัญญากู้ดังกล่าว จากนั้นจำเลยเบิกความตามคำให้การเป็นความเท็จและอ้างสัญญากู้เงินอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีนั้นซึ่งเป็นข้อสำคัญในคดีที่อาจมีผลแพ้ชนะกันได้ เช่นนี้ข้อเท็จจริงที่ได้จากชั้นไต่สวนมูลฟ้องจึงครบองค์ประกอบความผิดตามฟ้องโดยไม่มีข้อพิรุธอันเป็นที่ประจักษ์ชัด คดีโจทก์จึงมีมูลตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา

( วิรุฬห์ แสงเทียน - ประเสริฐ โอนพรัตน์วิบูล - นิยุต สุภัทรพาหิรผล )
ศาลจังหวัดสมุทรปราการ - นายอภิชาต รอดจากทุกข์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 - นายสันต์ เกียรติก้อง

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US