ข้อตกลงในการประกวดราคาเพื่อซื้อขาย

ข้อตกลงในการประกวดราคาเพื่อซื้อขาย
เงื่อนไขข้อตกลงในการประกวดราคากำหนดให้ผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้ต้องมาทำสัญญาซื้อขายกับ โจทก์ จึงเป็นเรื่องที่คู่กรณีมุ่งที่จะทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือ เมื่อโจทก์จำเลยยังมิได้มีการทำสัญญาต่อกัน จึงต้องถือว่าสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่เกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2529

ในการประกวดราคาโจทก์กำหนดเงื่อนไขว่าผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้จะต้องมาทำสัญญาซื้อขายภายใน 7 วันถ้าไม่มาทำสัญญาตามกำหนด โจทก์ริบเงินประกันซอง ประกวดราคาได้ทันทีและถ้าโจทก์ต้องซื้อสิ่งของรายการนี้จากบุคคลอื่นมีราคาสูงขึ้นเท่าใดผู้ประกวดราคาได้ครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบใช้ค่าสิ่งของที่สูงขึ้นนั้นให้แก่โจทก์อีกโสดหนึ่งด้วยเห็นได้ว่าการตกลงซื้อขายรายนี้คู่กรณีมุ่งจะทำสัญญากันเป็นหนังสือ จำเลยเป็นผู้ประกวดราคาได้แต่ไม่ไปทำสัญญาซื้อขายกับโจทก์ตามกำหนดที่โจทก์แจ้งให้ทราบจึงถือว่ายังไม่มีสัญญาซื้อขายต่อกัน โจทก์จึงมีเพียงสิทธิริบเงินประกันซอง ประกวดราคาตามข้อตกลงในการประกวดราคาเท่านั้นจำเลยยังไม่มีความผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่จะต้องมอบสิ่งของตามที่ประกวดราคาให้โจทก์ ค่าเสียหายที่โจทก์ซื้อสิ่งของจากผู้อื่นในราคาที่เพิ่มขึ้นเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาซื้อขายไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในการประกวดราคา เมื่อสัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นโจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ชนะในการประกวดราคาซื้ออะไหล่เครื่องอุปกรณ์ทางไกล แล้วไม่มาทำสัญญากับโจทก์ในกำหนด โจทก์ต้องซื้อจากบุคคลอื่นในราคาที่สูงขึ้นเป็นเงิน 148,020 บาท ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 148,020 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด โดยยื่นราคาภายในกำหนด 90 วัน โจทก์ขอต่อรองราคาลงมา จำเลยไม่สามารถลดให้ได้ โจทก์ออกใบสั่งซื้อให้จำเลยมาทำสัญญาซื้อขายภายใน 7 วัน จำเลยไม่มาทำสัญญากับโจทก์ตามนัด โจทก์จึงยกเลิกใบสั่งซื้อกับจำเลย ต่อมาโจทก์ซื้อจากบริษัทอื่นในราคาที่สูงกว่าจำเลยเสนอขายให้โจทก์เป็นเงิน 148,020 บาท แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ได้ความตามคำฟ้องของโจทก์ว่าในการประกาศประกวดราคาซื้ออะไหล่เครื่องอุปกรณ์ทางไกลรายนี้โจทก์ได้กำหนดไว้ในเงื่อนไขแห่งข้อสัญญาการประกวดราคาเอกสารหมาย จ.2 ข้อ 8.1 ว่า ผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้จะต้องมาทำสัญญาซื้อขายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ ถ้าบิดพริ้วไม่มาทำสัญญาตามกำหนดนี้ โจทก์จะริบเงินประกันซองประกวดราคาได้ทันที และถ้าโจทก์ต้องซื้อสิ่งของรายการนี้จากบุคคลอื่นมีราคาสูงขึ้นเท่าใด ผู้ประกวดราคาได้ครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสิ่งของที่สูงขึ้นนั้นให้แก่โจทก์อีกโสดหนึ่งด้วย ตามเงื่อนไขดังกล่าวเห็นได้ว่าการตกลงซื้อขายอะไหล่เครื่องอุปกรณ์รายนี้ โจทก์จำเลยมุ่งจะทำสัญญากันเป็นหนังสือ ดังนั้นแม้จะได้ความตามคำฟ้องและที่โจทก์นำสืบว่าโจทก์ได้สนองรับคำเสนอขายของจำเลยและแจ้งให้จำเลยไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามเงื่อนไขแล้วก็ตาม เมื่อจำเลยไม่ไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายกับโจทก์ จึงถือว่ายังไม่มีสัญญาซื้อขายต่อกันโจทก์จึงมีแต่เพียงสิทธิริบเงินประกันซองประกวดราคาตามข้อตกลงในการประกวดราคาเท่านั้น จำเลยยังไม่มีความผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่จะต้องมอบอะไหล่เครื่องอุปกรณ์ทางไกลให้โจทก์ค่าเสียหายจำนวน 148,020 บาท ที่โจทก์เรียกร้องเป็นค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาซื้อขาย ไม่ใช่ค่าเสียหายอันเกิดจากข้อตกลงในการประกวดราคา เมื่อสัญญาซื้อขายยังไม่เกิดขึ้นโจทก์ก็ย่อมไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชดใช้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้โจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

ข้อสังเกต* เงื่อนไขข้อตกลงในการประกวดราคากำหนดให้ผู้ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ประกวดราคาได้ต้องมาทำสัญญาซื้อขายกับ โจทก์ จึงเป็นเรื่องที่คู่กรณีมุ่งที่จะทำสัญญาซื้อขายเป็นหนังสือ เมื่อโจทก์จำเลยยังมิได้มีการทำสัญญาต่อกัน จึงต้องถือว่าสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะได้ทำเป็นหนังสือตามมาตรา 366 วรรค สอง ดังนั้น เมื่อสัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์จำเลยยังไม่เกิด ก็ย่อมไม่มีความรับผิดตามสัญญาซื้อขายที่โจทก์จะเรียกค่าเสียหายจากจำเลยตามสัญญานั้นได้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 366 ข้อความใดๆ แห่งสัญญาอันคู่สัญญาแม้เพียงฝ่ายเดียวได้แสดงไว้ว่าเป็นสาระสำคัญอันจะต้องตกลงกันหมดทุกข้อนั้น หากคู่สัญญายังไม่ตกลงกันได้หมดทุกข้ออยู่ตราบใด เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ท่านนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันการที่ได้ทำความเข้าใจกันไว้เฉพาะบางสิ่งบางอย่างถึงแม้ว่าจะได้จดลงไว้ก็หาเป็นการผูกพันไม่
ถ้าได้ตกลงกันว่าสัญญาอันมุ่งจะทำนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือไซร้ เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ท่านนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันจนกว่าจะได้ทำขึ้นเป็นหนังสือ
มาตรา 380 ถ้าลูกหนี้ได้สัญญาไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อตนไม่ชำระหนี้เจ้าหนี้จะเรียกเอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบนั้นแทนการชำระหนี้ก็ได้ แต่ถ้าเจ้าหนี้แสดงต่อลูกหนี้ว่าจะเรียกเอาเบี้ยปรับฉะนั้นแล้วก็เป็นอันขาดสิทธิเรียกร้องชำระหนี้อีกต่อไป
ถ้าเจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้จะเรียกเอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบนั้นในฐานเป็นจำนวนน้อยที่สุดแห่งค่าเสียหายก็ได้ การพิสูจน์ค่าเสียหายยิ่งกว่านั้นท่านก็อนุญาตให้พิสูจน์ได้
มาตรา 453 อันว่าซื้อขายนั้นคือสัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหนึ่งเรียกว่าผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหนึ่งเรียกว่าผู้ซื้อและผู้ซื้อตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขาย

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US