การกระทำหลายอย่างแต่ละอย่างเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง

การกระทำหลายอย่างแต่ละอย่างเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์ จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานชิงทรัพย์ให้ลงโทษประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 25 ปี ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้เพราะเกินคำขอ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานลักทรัพย์ เนื่องจากเจตนาลักทรัพย์เกิดขึ้นภายหลัง อันเป็นคนละกรรมกับการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งขาดตอนไปแล้ว ซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำหลายอย่างซึ่งรวมอยู่ในความผิดฐานชิงทรัพย์ และแต่ละอย่างเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งซึ่งมีโทษเบากว่าความผิดฐานชิงทรัพย์ตามที่พิจารณาได้ความ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8836/2552

พนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี โจทก์

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 288 และ 339 แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานลักทรัพย์ เนื่องจากเจตนาลักทรัพย์เกิดขึ้นภายหลัง อันเป็นคนละกรรมกับการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งขาดตอนไปแล้ว แม้โจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษหลายกรรม แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าจำเลยกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 339 ซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำหลายอย่างซึ่งรวมอยู่ในความผิดฐานชิงทรัพย์ และแต่ละอย่างเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งซึ่งมีโทษเบากว่าความผิดฐานชิงทรัพย์ตามที่พิจารณาได้ความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 339 และสั่งให้จำเลยคืนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนหรือใช้ราคาแทนเป็นเงิน 25,199 บาท แก่ทายาทหรือกองมรดกของผู้ตายด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคห้า ให้ลงโทษประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 (ที่ถูกประกอบมาตรา 52 (2)) ให้จำคุกตลอดชีวิต ให้จำเลยคืนทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนหรือใช้ราคาแทนเป็นเงิน 25,199 บาท แก่ทายาทหรือกองมรดกของผู้ตายด้วย คำขออื่นให้ยก
โจทก์และจำเลยต่างไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 334 ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 (ที่ถูก ประกอบมาตรา 53) คงจำคุก 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาหรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยให้การรับสารภาพแต่ก็มีรายละเอียดว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายสั่งให้จำเลยขึ้นไปจัดเรียงกระเป๋าพลาสติกบนชั้นที่ 2 ของโกดังเก็บสินค้า จำเลยทำตามคำสั่งจนเกือบเสร็จแล้ว แต่ผู้ตายไม่พอใจและสั่งให้จำเลยจัดเรียงใหม่ จำเลยบอกว่าเหนื่อยและปวดท้อง ผู้ตายพูดด่าว่าจำเลย จำเลยโกรธจึงหยิบท่อนไม้ด้ามร่มตีผู้ตาย ดังนี้ กรณีต้องฟังเนื้อหาของคำให้การทั้งหมด มิใช่รับฟังเฉพาะคำรับสารภาพแล้วแปลความหมายว่า จำเลยประสงค์ต่อทรัพย์ดังที่โจทก์ฎีกา ทั้งคำให้การดังกล่าวมีรายละเอียดของข้อเท็จจริงในทำนองว่าจำเลยฆ่าผู้ตายเพราะโกรธ จึงมิใช่การกล่าวอ้างลอย ๆ อย่างที่โจทก์ฎีกา เชื่อว่าเหตุที่จำเลยฆ่าผู้ตายเนื่องจากโกรธที่ผู้ตายด่าจำเลย มิได้เกิดจากความประสงค์ต่อทรัพย์มาก่อนดังที่โจทก์ฎีกา การลักทรัพย์เป็นการกระทำโดยเจตนาที่เกิดขึ้นภายหลังอันเป็นคนละกรรมกับการกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งขาดตอนไปแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาว่า ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 แต่โจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษหลายกรรมจึงลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ไม่ได้เพราะเกินคำขอนั้น โจทก์ฎีกาว่า ศาลต้องลงโทษในความผิดฐานลักทรัพย์เพราะโจทก์บรรยายฟ้องถึงความผิดฐานลักทรัพย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบของความผิดฐานชิงทรัพย์ไว้แล้ว จึงไม่เป็นการพิพากษาเกินคำฟ้อง นั้น เห็นว่า แม้โจทก์ไม่ได้ขอให้ลงโทษหลายกรรม แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้แล้วว่าจำเลยกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 ไว้ ซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำหลายอย่างซึ่งรวมอยู่ในความผิดฐานชิงทรัพย์ และแต่ละอย่างเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลฎีกาจึงมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์อีกกระทงหนึ่งซึ่งมีโทษเบากว่าความผิดฐานชิงทรัพย์ตามที่พิจารณาได้ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาส่วนนี้มา ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
อนึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 แต่มิได้พิพากษายกฟ้องในข้อหาดังกล่าวจึงไม่ชอบ เห็นควรพิพากษาแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 334 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานลักทรัพย์ลงโทษจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษฐานฆ่าผู้อื่นที่ให้จำคุก 25 ปีแล้ว เป็นจำคุกจำเลย 26 ปี 6 เดือน ให้ยกฟ้องฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1.
( เฉลิมชัย ตันตยานนท์ - มนตรี ศรีเอี่ยมสะอาด - วีระวัฒน์ ปวราจารย์ )
ศาลจังหวัดนนทบุรี - นางวัชรี พูลเกษม
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 - นายบัณฑิต รชตะนันท์

ทนายความประชาชน
ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศฯ (ช ป.ท.)
hello! I am an admin of the People's Lawyer - Free Legal Consultation Club Nationwide (Chor.Por.T.A.) giving advice - like a relative - free of charge, call or add Line 089 214 2456
สวัสดี! ฉันเป็นแอดมินของทนายความประชาชน - ชมรมปรึกษาคดีฟรีทั่วประเทศฯ (ช.ป.ท.) ให้คำปรึกษา- ดุจญาติมิตร - ไม่คิดค่าใช้จ่าย โทร.หรือ แอดไลน์ 089 214 2456


X
STILL NOT SURE WHAT TO DO?
We are glad that you preferred to contact us. Please fill our short form and one of our friendly team members will contact you back.
Form is not available. Please visit our contact page.
X
CONTACT US